top of page

DANISH, BUT SPECIAL เยี่ยมชมบริษัทไปกับ HENRIK LINDBERG



เยี่ยมชมบริษัทไปกับ HENRIK LINDBERG

Lindberg นับว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ของแว่นตาระดับโลกที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่ในขณะนี้ อย่างน้อยก็เป็นที่รู้จักกันในวงการแว่นตาหรู นับว่าเป็นโอกาสดีที่ทางนิตยสารแว่นตาของเรามีโอกาสได้มาเยี่ยมเยียนบริษัทแห่งนี้ถึงเดนมาร์ก อีกครั้ง เรามีโอกาสได้เยี่ยมชมเมือง Aahus การมาเยี่ยมเยียนในครั้งนี้เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นเดนิชที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความแปลกไม่เหมือนใคร ย้อนกลับไปยังภูมิหลังของบริษัทแห่งนี้สักเล็กน้อย เจ้าของเพียงคนเดียวคือคุณ Henrik ผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความมานะบากบั่น หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ LINDBERG นั้นคือความใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกระบวนการผลิต การตลาด ทรัพยากรบุคคล เหล่านี้ล้วนทำให้บริษัทดำเนินไปด้วยความราบรื่น บรรยากาศรอบๆให้ความรู้สึกถึงความเป็นครอบครัวอย่างมาก สำหรับในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ คุณ Henrik ได้พูดคุยกันแบบเปิดใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในบรรยากาศสบายๆเป็นกันเอง ได้เห็นถึงแนวคิดอันชาญฉลาด มุมมองอันกว้างไกล และทัศนคติที่ดี หลายๆเรื่องราวที่คุณ Henrik ได้กล่าวถ่ายทอดออกมาให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สุขุมแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เฮฮา เมื่อถามถึงงานที่สำคัญที่สุด ณ บริษัทแห่งนี้ คุณ Henrik ได้ให้คำตอบว่าคือการเดินไปเดินมารอบๆบริษัท ซึ่งก่อนที่จะเริ่มการพูดคุยกันนั้น ทางเรามีโอกาสได้เดินชมรอบๆในชั่วโมงการทำงานของคุณ Henrik ด้วยเช่นกัน

 

อะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณ Henrik ในหลายๆสัปดาห์ที่ผ่านมา?

ผมคิดว่าแนวทางของ LINDBERG ดำเนินไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เรามีความภูมิใจ ถึงแม้ว่า LINDBERG เป็นเพียงแค่บริษัทเล็กๆ แต่เราก็สามารถดำเนินธุรกิจได้ในร้อยกว่าประเทศทั่วโลก หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางไปในหลายที่ เข้าร่วมงานแว่นตาแฟร์ในหลายประเทศเช่นที่ SILMO ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ IOFT เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น งานแว่นตาแฟร์ที่ฮ่องกงและที่ CIOF กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งงานเหล่านี้นับว่าเป็นโอกาสอันดียิ่งในการพบปะพูดคุยและได้รับทราบถึงความต้องการและความคิดเห็นของลูกค้าในมุมมองที่ต่างกันไป มีหลายๆสิ่งซึ่งล้วนสร้างแรงบันดาลใจให้ผม ซึ่งผมก็พยายามที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นและประสบผลสำเร็จไปด้วยกันกับทีมงานของผม

หากพูดถึง LINDBERG จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างไร?

บริษัทของผมเกิดขึ้นเมื่อ 28 ปีที่แล้ว ซึ่งได้ไอเดียมาจากแว่นตาอันแรกของเราคือ Air Titanium โดยคุณพ่อของผม ซึ่งท่านเป็นนักทัศนมาตร์ (Optometrist) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ท่านเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีไอเดียเป็นเลิศ ท่านใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของการคัดสรรวัสดุที่ใช้ในการทำแว่น การประกอบแว่น ซึ่งเหล่านี้ต้องอาศัยฝีมือทั้งสิ้น แรงบันดาลใจบางอย่างก็มาจากการใส่แว่น ตัวผมเองเป็นสถาปนิก และทำงานที่เกี่ยวกับสายงานของผมเองโดยตรง จนวันนึ่งผมและคุณพ่อได้ปรึกษากันเกี่ยวกับการแก้ปัญหาในการะบวนการผลิต หลังจากที่เราได้ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาแล้วนั้น พบว่าปัญหาของเราในการผลิตแว่นตาคือการลงทุน ทั้งในเรื่องเวลาและเงินทุน รวมไปถึงแรงงานด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดผมจึงตัดสินใจเข้ามาเริ่มธุรกิจนี้แบบเต็มตัว



หลังจากก่อตั้งบริษัท อะไรที่เป็นเหตุการณ์ซึ่งคุณคิดว่าสำคัญที่สุด?

อย่างแรกเลยก็คือการสร้างแบรนด์สินค้าให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครทั้งรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ลูกค้าจะชอบในสินค้าของเรา แต่ช่างแว่นตาไม่ค่อยชอบในการที่ทำแว่นตาพวกนี้มากนัก เพราะเนื่องด้วยขึ้นตอนหลายๆอย่างซึ่งค่อนข้างยุ่งยากและสลับซับซ้อนกว่าแว่นแบบเดิมที่เคยทำ ระยะเวลาช่วงแรกนั้น อุปกรณ์ที่เราได้จัดสรรมาสำหรับช่วงแว่นเรียกได้ว่าต้องเป็นช่างที่มีความชำนาญสูงถึงสามารถที่จะใช้ได้ ในการที่จะใส่เลนส์เข้าไปในกรอบแว่น ไม่ใช่ว่าช่างแว่นทุกคนสามารถทำได้ และต้องอาศัยความชำนาญจริงๆ ลูกค้าส่วนมากจะชอบรุ่นไทเทเนียมตรงที่น้ำหนักเบา ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองที่ผิวหนัง และที่สำคัญอีกอย่างคือไม่มีสกรู ทั้งนี้ช่างแว่นสามารถทำแว่นให้เข้ากับผู้ที่สวมใส่แต่ละคนได้ตามความต้องการอีกด้วย เหตุการณ์ที่สองนั้น ก็คือการขยายตลาดสินค้าตัวแรก เนื่องจากสินค้าเรามีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทำให้เราไม่สามารถที่จะดำเนินธุรกิจแบบธรรมดาได้ หลังจากนั้นก็ได้เข้าร่วมกับประเทศต่างๆในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นร้านแว่นตาที่อยู่กรุงโรม ฮัมบูร์ก หรือโคเปนเฮเกนและในเรื่องการขนส่งก็เป็นไปได้อย่างราบรื่นโดยตลอด



ใครสังเกตเห็นธงไทยมั้ย ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งในหลายประเทศที่มีฐานผู้ใช้ Lindberg เป็นจำนวนมาก

 

คุณสามารถอธิบายหลักการของ Lindberg จากเมื่อก่อนจนถึงปัจจุบันได้อย่างไร?

จริงๆหลักการของเรายังคงเหมือนเมื่อก่อน คือเราไม่เคยใช้สกรูไม่ว่ากับแว่นรุ่นไหนก็ตามแต่ อย่างที่บอก การเลือกสรรวัสดุนั้น เป็นสิ่งที่เราใส่ใจและตระหนักถึง LINDBERG ออกแบบมาให้เลือกมากมาย ช่างแว่นสามารถตัดแว่นให้เข้ากับรูปหน้าของลูกค้าแต่ละคนได้ และลูกค้ามีโอกาสที่จะเลือกแว่นตาได้ในหลากหลายแบบหลายสไตล์ และเลือกสีได้มากมายตามสไตล์ที่ชอบ

ครั้งหนึ่งคู่แข่งของคุณเคยกล่าวว่า LINDBERG เป็นเสมือน APPLE แห่งวงการแว่นตา สำหรับคำกล่าวนี้ถือว่าเป็นคำชมหรือเป็นคำที่ไม่น่ายินดีสักเท่าไหร่?

เมื่อเราได้ยินคำกล่าวเช่นนั้น แน่นอนว่าเป็นคำเยินยอ เราอาจมีบางสิ่งที่อาจคล้ายกันเป็นธรรมดาสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันมากที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของคู่แข่งทางธุรกิจที่มีเยอะเหมือนกันและมักจะถูกจับตามองว่าสินค้าตัวในของ LINDBERG ที่ออกสู่ตลาดและเราทำอย่างไร การดำเนินธุรกิจไปในทิศทางไหน สำหรับผมเองทำได้แค่ยิ้มรับก็เท่านั้น เหมือนอย่างสินค้าตัวใหม่ของ Apple ที่ออกสู่ตลาด สินค้าตัวล่าสุด ณ ตอนนี้คือ Iphone 5 ในเรื่องฟังก์ชั่น มีเดียที่ครอบคลุมมากขึ้น มาพร้อมกับสุดยอดดีไซน์เหมือนอย่างเคยซึ่งคล้ายกับรุ่นเดิมมาก ต่างกันเพียงขนาดยาวกว่ารุ่นเดิมประมาณ 2 ซม.และมีแค่ 2 สีเหมือนกัน แต่สำหรับทาง LINDBERG เราให้ความสำคัญในแต่ละรุ่นให้มีหลากหลายดีไซน์ที่ต่างกันและมีหลากหลายสี นี่ก็เป็นข้อแตกต่างที่เราเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะสินค้าเราไม่เหมือนกัน การตระหนักมากน้อยต่างกันขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่าง

ยังมีบริษัทอื่นอีกหรือที่มีอะไรที่คล้ายคลึงกับ LINDBERG?

ในหลายๆแบรนด์ของเดนมาร์ก ผมยกให้ Bang&Olufsen ซึ่งเป็นแบรนด์เก่าแก่ เริ่มดำเนินธุรกิจแบบครอบครัวซึ่งเป็นหลักการคล้ายๆกับ LINDBERG และ Bang&Olufsen รู้ว่าต้องใช้กลยุทธ์ไหนที่ทำให้อยู่เหนือคู่แข่งทั้งในเรื่องของดีไซน์และคุณภาพ เขารักษามาตรฐานสินค้าได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าคู่แข่งของเขาจะพยายามที่จะขายสินค้าให้ถูกมากกว่าก็ตาม อีกแบรนด์ของเดนมาร์กที่มีความคล้ายคลึงกับลินด์เบิร์ก คือ Ortofon ซึ่งเป็นธุรกิจที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องเสียง เป็นแบรนด์ที่มีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมทั่วโลก เป็นผู้นำเรื่องเครื่องเสียง Ortofon เป็นผู้ผลิตที่มุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าให้มีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชื่นชมเป็นอย่างมาก และอีกแห่งหนึ่งเป็นผู้ผลิตเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือนั้นก็คือ Aston Martin ซึ่งผมยอมรับว่าสินค้าของเขาสุดยอดทั้งคุณภาพและดีไซน์

พูดถึงหัวข้อที่คุณชอบบ้าง สิ่งที่คุณสนใจเป็นพิเศษคือความเร็วใช่ไหม?

ใช่ครับ เมื่อหลายปีที่แล้วเวลาว่างผมมักจะไปแล่นเรือใบ เป็นสิ่งที่ผมชอบและสนใจมาก ผมพยายามที่จะฝึกฝนเสมือนว่าผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ชื่นชอบความเร็วด้วยเช่นกันและหากคุณต้องการจะแล่นเรือใบให้เร็วและชนะมัน ก็ขึ้นอยู่กับทีมของคุณด้วยเช่นกัน เปรียบเสมือนกับการทำธุรกิจ คุณไม่สามารถตัดสินใจเพียงคนเดียวได้ ผมมีลูกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมเริ่มมีทัศนคติที่เปลี่ยนไป การแล่นเรือใบสำหรับผมกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ดังนั้นผมจึงหันมาสนใจเกี่ยวกับการแข่งรถประลองความเร็ว ถ้าพูดถึงเรื่องความเร็วผมว่ามันขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง คุณต้องมีการตัดสินใจที่แน่วแน่และมั่นใจว่าคุณจะเร็วพอที่จะเอาชนะคู่แข่งได้ ผมรักที่จะเอาความเร็วผสานควบคู่กับการควบคุมที่ดีมาใช้ในการเอาชนะคู่แข่ง

 

เราได้สนทนาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวมามากแล้ว กลับมาคุยกันในเรื่องธุรกิจกันบ้าง งานหลักๆของคุณที่ LINDBERG คืออะไร

ก็เดินไปมา รอบๆครับ

นับว่าเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ?

ใช่ครับ ดูเหมือนว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย จริงๆผมเป็นเหมือนคนงานคนแรกในบริษัทแห่งนี้ ผมรู้ในทุกๆรายละเอียดตั้งแต่เรื่องพื้นๆไปจนถึงเรื่องใหญ่ แต่ผมไม่ใช่คนประเภทที่ชอบนั่งเฉยๆอยู่ใน office

คุณมีกระท่อมเล็กๆตั้งอยู่กลางบริษัทระหว่างฝ่ายผลิตและฝ่ายการตลาด มีแค่โต๊ะทำงานเล็กๆและเตียงสไตล์เรียบๆ ภรรยาคุณไล่ออกจากบ้านนั่นเป็นเรื่องที่แซวกันเล่นๆใช่ไหม?

ก็ไม่ทั้งสองอย่างครับ ห้องทำงานเก่าของผมเต็มไปด้วยกระดาษจำนวนมหาศาล กระดาษใหม่ๆจะมากเพิ่มขึ้นทุกๆสัปดาห์ บางครั้งผมเก็บกระดาษเหล่านั้นใส่กล่องทุกๆวันคริสมาสต์และวันปีใหม่และเก็บทั้งหมดไว้ที่โกดัง แต่ผมก็ได้สังเกตุว่า ตลอดระยะเวลา 15 ปี ผมไม่เคยหันมองไปมองกล่องพวกนั้นแม้แต่ครั้งเดียว จน ณ วันหนึ่ง ผมมาถึงที่ทำงาน เหมือนที่ผมได้เคยพูดไว้ว่า มันเต็มไปด้วยกระดาษ ผมพูดกับตัวเองว่าผมจะสร้างที่ทำงานใหม่ สองอาทิตย์หลังจากนั้นผมได้ล๊อกห้องทำงานของผมแล้วย้ายมาบ้านหลังใหม่ของผม มันเป็นกระท่อมสไตล์สวีดิชและการตกแต่งค่อนข้างเรียบง่ายเหมือนหลักการของลินด์เบิร์ก ผมขออนุญาตถอดเสื้อแจ๊คเก็ตนะครับ

ตามสบายครับ คุณใช้เวลาในแต่ละวันในการออกแบบนานแค่ไหน?

ผมใช้เวลาทั้ง 24 ชั่วโมงในแต่ละวันในการออกแบบ การออกแบบไม่ใช่เพียงแค่สร้างแบบแว่นตาขึ้นมา แต่มันหมายถึงการคิดว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจดำเนินไปข้างหน้าได้ ทุกๆอย่างล้วนต้องดำเนินควบคู่กันไป ถึงจะถึงเป้าหมาย อย่างไรก็ตามแต่สินค้าที่ดีไม่ใช่เพียงแค่ดีไซน์ที่ดีเท่านั้น หากต้องบริหารจัดการที่ดี มีการวางกลยุทธ์ซึ่งเชื่อมโยงกันหรือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไปด้วย สำหรับผมทุกๆอย่างคือการดีไซน์ซึ่งนี่เป็นอีกอย่างซึ่งมีความสำคัญในการพัฒนาต่อไปในอนาคต

ในเรื่องของการตลาด เพราะเหตุใด LINDBERG ถึงให้ความสำคัญกับการตกแต่งร้านมากเป็นพิเศษ?

เนื่องจากเราอยากให้ลูกค้าสนใจในสินค้าเราและประทับใจกับร้านดีไซน์ LINDBERG สร้างแรงดึงดูดใจไม่ใช่แค่กับตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว โดยร้านทุกร้านของ LINDBERG จะมีการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ มีเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมที่จะให้บริการลูกค้าอย่างครบครัน พร้อมทั้งเรายังทำ POP toolkit หลายๆแบบ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการนำเสนอสินค้าที่มีดีไซน์ รวมไปถึงทำเลที่ดีและเหมาะสมกับแบรนด์ของเรา

สำหรับเรื่องดีไซน์ดูเหมือนว่าจะเป็นคอนเซปต์หลักของคุณเนื่องจากเดนมาร์กเป็นที่ทราบกันดีกว่ามีจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ อะไรที่คุณคิดว่านี่แหล่ะเป็นเอกลักษณ์ของ Danish Design ?

เดนนิชดีไซน์หรือสแกนดิเนเวียนดีไซน์นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ ถูกขนานนามว่า “เรียบแต่หรู” ซึ่งตอบทุกโจทย์ได้เป็นอย่างดี มีคำถามเสมอๆว่า “อะไรเป็นพื้นฐานสำคัญซึ่งอยู่เบื้องหลังสินค้า” หัวใจสำคัญนั้นคือ “หากคุณสังเกตแว่นตารุ่น Air Titanium สิ่งแรกที่ทำให้คุณจำได้อย่างแม่นยำคือ “ตรงส่วนของบานพับ แทนที่จะซ่อนไว้ด้านใน เราก็ทำให้เห็นได้ชัดเจน ซึ่งจดนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสินค้าของเรา ซึ่งแปลกไม่เหมือนใคร


คุณสามารถพูดได้หรือไม่ว่า LINDBERG นั้นเป็นต้นแบบของเดนนิชดีไซน์?

ในหลายๆอย่างผมสามารถพูดได้เลยว่าใช่ แต่ในหลายๆปีที่ผ่านมานั้น ดีไซน์ของเรามีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆประเทศสไตล์เรียบหรูนั้นไม่ได้เป็นที่ต้องการมากนัก ลูกค้าบางส่วนอาจให้ความสนใจในสินค้าที่ดูโดดเด่นด้านดีไซน์มากว่าเรียบหรู

อะไรที่ทำให้ให้ดีไซน์ของ LINDBERG เป็นที่รู้จัก?

คงจะเป็นเรื่องของน้ำหนักที่เบามาก มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

อะไรที่เป็นส่วนที่ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่าง LINDBERG กับแว่นตาแบรนด์อื่นๆ?

สิ่งแรกก็คือทางเรามีการพัฒนาในด้านดีไซน์อย่างต่อเนื่อง มีไอเดียใหม่ๆและเทคนิคเฉพาะตัว สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเราให้ดำเนินธุรกิจไปได้ เรามีศักยภาพมากพอที่จะบริหารจัดการเองได้หมดทั้งระบบ ทั้งนี้เราให้การสนับสนุนอะไหล่ต่างๆให้กับลูกค้าอีกด้วย

แว่นตารุ่นไหนที่คิดว่าล้มเหลวที่สุดล่ะครับ?

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราได้ทำแว่นตาแนวสปอร์ต เราอยากให้ลูกค้าได้ใส่ LINDBERG แม้แต่ตอนเล่นสกี แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งปกติแล้วลูกค้าไม่ได้ต้องการที่จะซื้อแว่นตาประเภทนี้จากเรา ผมไม่คิดว่าเป็นดีไซน์ของแว่น แต่เป็นเพราะ LINDBERG ไม่ได้เป็นที่รู้จักในแนวแว่นสปอร์ต ลูกค้าให้ความสนใจแว่นประเภทนี้ในแบรนด์ของ Oakley หรือ Adidas มากกว่า เราจึงตัดสินใจหยุดผลิตแว่นตาแนวนี้ สำหรับตอนนี้คงต้องรอดูกันต่อไป ไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีอยู่ในร้านค้าก็อาจเป็นได้ เพราะเรายังเชื่อมันในสินค้าของเราจนถึงทุกวันนี้


 

LINDBERG มีหลักการดำเนินธุรกิจที่ไม่เหมือนบริษัทอื่นอย่างไร ?

เราพยายามลดช่องว่างระหว่างเรา ผู้ให้บริการสายตาและผู้บริโภคนั้น ให้เหลือน้อยที่สุด โดยผู้บริโภคนั้นสามารถดีไซน์แว่นตาชิ้นต่อชิ้นด้วยตัวเอง และสามารถสั่ง Customized ได้แบบชิ้นต่อชิ้น และสามารถสั่งได้ทีละชิ้นโดยไม่ต้องกำหนดจำนวนขั้นต่ำว่าจะต้องสั่งกี่ชิ้น ซึ่งร้อยละ 70 ของออเดอร์ทั้งหมดล้วนชิ้นต่อชิ้น โดยไม่จำเป็นต้องสั่งจำนวนครั้งละมากๆ ซึ่งตรงนี้นับว่าเป็นการดำเนินธุรกิจที่มีความพิเศษของ LINDBERG โดยผู้บริโภคสามารถเลือกแว่นตาให้เข้ากับใบหน้า เลือกความยาวขาแว่น ขนาดความกว้างของสะพานจมูก สามารถปรับได้ให้เหมาะกับหน้า ทั้งนี้เราพยายามที่จะส่งสินค้าให้เร็วที่สุด ในบางกรณีเราสามารถที่จะผลิตและจัดส่งได้ในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียวซึ่งคิดเป็นร้อยละ 95

คุณให้ความสำคัญกับผู้ให้บริการแว่นตามากน้อยแค่ไหน?

แน่นอนครับ เพราช่างแว่นตาจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการของ ลินด์เบิร์ก เป็นอย่างดี และสามารถที่จะผลิตแว่นตาด้วยมือของเขาเอง แว่นของเราต้องดูเรียบหรู แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องอาศัยเทคนิคและฝีมือในการผลิตให้ได้คุณภาพ อย่างเช่นการประกอบเลนส์

ตลาดหลักที่สำคัญคือที่ไหน?

ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเราคือ เยอรมันและอเมริกา

สำหรับตลาดเอเชีย มีแนวโน้มไปในทิศทางไหน?

สำหรับตลาดเอเชียเป็นตลาดที่กำลังเติบโต และแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเรา เรามาเปิดตลาดครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ที่ฮ่องกงเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และประเทศจีนเมื่อ 11 ปีที่แล้ว

คุณคิดว่าลูกค้าของคุณมีลักษณะเด่นอย่างไรบ้าง?

ลูกค้าส่วนใหญ่นั้น เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการใส่แว่น ต้องการเลือกแว่นให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด ใส่แล้วต้องดูดี คนที่ซื้อแว่นของเราต่างก็มองหาแว่นที่ใส่แล้วสบาย มีดีไซน์ที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่ได้คิดแบบนี้ รุ่นที่เราประสบความสำเร็จที่สุดคือรุ่นที่ไม่มีกรอบ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นแล้วว่าดีไซน์ลักษณะนี้พิชิตใจลูกค้าได้อย่างสูงสุด

แม้จะมีแว่นตาแบรนด์ดังมากมายในอุตสาหรรมแว่นตาในปัจจุบันนี้ เรากำลังจับตามองแนวโน้มของบริษัทอิสระจะจับมือร่วมทุนกับบริษัทใหญ่ๆในอนาคตหรือไม่ หนึ่งในแบรนด์ดังอย่าง Alain MiKi ผลิตโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตแว่นหรูอย่าง Loxottica สำหรับ Lindberg เองนั้นเมื่อไหร่จะมีแนวโน้มให้บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการแว่นตามาดำเดินธุรกิจแทน บ้างหรือไม่อย่างไร?

เป็นคำถามที่น่าสนใจเลยทีเดียวและคุณก็ไม่ใช่คนแรกที่ถามคำถามนี้ ณ ปัจจุบันนี้ เรายังไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะขั้นตอนการผลิตของเราค่อนข้างซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจก็ซับซ้อนและนั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะรวบรวมให้ไปอยู่ในโครงสร้างอื่น สำหรับตอนนี้ผมพูดเลยว่า LINDBERG ไม่มีนโยบายและยังไม่มีแผนที่จะดำเนินธุรกิจไปในลักษณะนี้ แต่ในทางกลับกัน เราต่างตระหนักดีว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญและดีที่สุดสำหรับบริษัทของเราให้สามารถดำเนินธุรกิจให้อยู่ได้ยาวนานที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ณ ปัจจุบันนี้หลายๆสิ่งเปลี่ยนไปและพวกเรากำลังมองดูอยู่ว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปในทิศทางใดต่อไป

คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างในการที่บริษัทใหญ่ๆเข้ามาดำเนินกิจการและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ถูกดำเนินกิจการแทนอย่างไรบ้าง?

เราเห็นได้จากหลายๆตัวอย่างที่ผ่านมา หากสินค้าแบรนด์นั้นถูกผลิตโดยบริษัทอื่น ต่อไปอาจมีดีไซน์หรือรูปแบบคล้ายๆกันผลิตออกมา ตรงจุดนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภายหลัง สำหรับกรณีแบบนี้ลูกค้าแทบจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงด้วยซ้ำไป

สำหรับบริษัทลินด์เบิร์กในขณะนี้ สามารถกล่าวได้ว่าเป็นบริษัทอิสระที่ใหญ่ที่สุดในวงการแว่นตาได้หรือไม่?

ผมไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นครับ

อาจเป็นอันดับสอง?

ค่อนที่จะเป็นไปได้ครับ ใช่

คุณคิดว่าธุรกิจของคุณในปัจจุบันนี้ คุณกำลังแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการแว่นตาหรือแข่งขันกับบริษัทอื่นๆ?

ถ้าหากลูกค้าไม่ได้ให้ความสนใจในแบรนด์มากนัก แต่สนใจในแว่นตาที่มีลักษณ์เด่นในเรื่องของดีไซน์เรียบหรูแลวัสดุคุณภาพเยี่ยม ผมยินดีที่จะนำเสนอแว่นตาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร เราพร้อมที่จะสนับสนุนและบริการท่านอย่างดีเยี่ยม

สุดท้ายนี้ อะไรนับว่ายอดเยี่ยมที่สุดของ LINDBERG?

หลักและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของเราครับ
และนี่ก็คือความยอดเยี่ยมของผู้ชายคนนี้ที่ไม่เพียงแต่ความสามารถของเขาในการดีไซน์สิ่งที่มหัศจรรย์อย่างแว่น Lindberg แต่หลักการบริหารดำเนินงานและอารมณ์ขันของผู้ชายคนนี้ที่ทำให้แบรนด์ของเขาเป็นที่ยอมรับและสวมใส่โดยผู้คนทั่วโลก

Lindberg Factory Galleries




ขอบพระคุณ คุณ Henrik ที่ให้โอกาสเรามาเยี่ยมชมบริษัท
Credit : http://eyewear-magazine.com


Comments


bottom of page