ทำไมต้องตรวจสุขภาพตา ?
top of page

ทำไมต้องตรวจสุขภาพตา ?



เพราะสุขภาพตา และ การมองเห็นที่ดี เป็นส่วนหนึ่งของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การตรวจสุขภาพตา จึงมีความจำเป็นไม่น้อยไปกว่าการตรวจสุขภาพด้านอื่นๆ สำหรับการตรวจสุขภาพตานั้นผู้ที่ได้รับการตรวจจะได้รับการประเมินทางด้านการมองเห็น พร้อมกับการตรวจวินิจฉัยโรคตาที่พบเห็นได้บ่อย การดูจอประสาทตา เส้นประสาทตา และเส้นเลือดในตา ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงโรคทางร่างกาย และ โรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในร่างกายเราอีกด้วย

เพราะโรคตาบางชนิดไม่แสดงอาการผิดปกติเลยในระยะแรกของโรค เช่น ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม เบาหวานขึ้นตา แต่ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี จะค่อยๆลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ จนสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรในที่สุด การตรวจวัดตาเป็นประจำ และ ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม จะป้องกันความพิการทางสายตาได้ และ การตรวจพบโรคในระยะแรกๆ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาได้อีกด้วย


DNEye Scanner 2+ เทคโนโลยีใหม่ที่เป็นมากกว่าเครื่องวัดตา เพราะประเมินสุขภาพตาได้ด้วย และ ความคมชัดในการมองเห็นเป็นสิ่งสำคัญ โดยการมองเห็นนั้น ไม่ได้มีแค่เฉพาะสายตาสั้น สายตายาว หรือ สายตาเอียง เพราะทางผ่านของแสงที่เข้าสู่ดวงตาก็มีผลในการมองเห็นเช่นเดียวกัน Rodenstock จึงได้พัฒนาเครื่องมือการตรวจวัดสายตา ที่สามารถวิเคราะห์ค่าความเบี่ยงเบนในระดับสูง และ ประเมินตัวกลางของแสงที่ผ่านเข้าสู่ดวงตา เพื่อหาสาเหตุของปัญหาในการมองเห็นได้ดีมากยิ่งขึ้น


1.Aberrometry สามารถวัดค่าสายตาสั้น ยาว เอียง และความเบี่ยงเบนระดับสูง 2.Topograph วัดความโค้งกระจกตา และสร้างแบบจำลองกระจกตา ซึ่งสามารถประเมินค่าสายตาเอียงได้อย่างแม่นยำ เป็นประโยชน์ต่อการฟิตคอนแทคเลนส์ 3.Pachymetry ใช้ประเมินความหนาของกระจกตา และมุมระบายน้ำตาเพื่อนำมาใช้ประเมินความผิดปกติเบื้องต้น 4.Tonometry วัดความดันในลูกตาโดยใช้ลมเป่าและนำความหนาของกระจกตามาคำนวณร่วมด้วย 5.Pupillometry วัดขนาดรูม่านตาในสภาวะแสงต่างๆ สามารถวิเคราะห์การมองเห็นทั้งเวลากลางวันและกลางคืนได้ เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นในเวลากลางคืน และผู้ที่ต้องการใช้คอนแทคเลนส์แบบ Multifocal 6.Opacity ประเมินความสมบูรณ์ของตัวกลางที่แสงผ่านเข้าสู่ตา ดูว่าแสงสามารถผ่านได้ดีหรือมีอะไรมาบดบังทางเดินของแสง เช่น โรคตา ต้อกระจก เป็นต้น

นักทัศนมาตร (Optometrist) มีหน้าที่ตรวจวินิจฉัย และ แก้ไขปัญหาของระบบการมองเห็น ด้วยวิธีการทางทัศนมาตร หรือ ใช้อุปกรณ์ช่วยในการตรวจวัดสายตา โดยมีหลักการทำงานแบ่งเป็นระบบการมองเห็นประกอบเข้าด้วยกันถึง 3 ระบบ

1.ระบบหักเหของแสง (Refraction) 2.ระบบรับรู้ (Sensory) ซึ่งเป็นกระบวนการรับรู้ตั้งแต่สัญญาณภาพที่เกิดขึ้นในจอตาส่งไปถึงกระบวนการทางสมอง ซึ่งจะเกี่ยวข้องถึงระบบการเห็นภาพ 3 มิติ 3.ระบบกลไก (Motor) จะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อตา การปรับโฟกัส การสัมพันธ์กับการทำงานของตาทั้ง 2 ข้าง ในการรักษาแนวของตาข้างซ้ายและขวาให้สอดคล้องกัน ---- โดย 3 ระบบจะมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยการทำงานดีหรือไม่ดีนั้น จะขึ้นอยู่กับสุขภาพของดวงตาด้วย หน้าที่หลักของนักทัศนมาตรจะดูว่าสายตามีระบบหักเห การรับรู้การมองเห็น ระบบการโฟกัส ระบบกล้ามเนื้อ นั้นมีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งส่งผลไปถึงสมอง และ ต้องดูด้วยว่าความผิดปกติทั้งหมดนี้ไม่สัมพันธ์กับการมีโรคตา จึงจำเป็นต้องรู้ว่าการมีโรคตา หรือ โรคอื่นๆ ที่ส่งผลทางตา เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ถ้าพบโรคอยู่จะต้องดำเนินการส่งจักษุแพทย์เพื่อทำการรักษาในขั้นตอนต่อไป จึงเห็นได้ว่านักทัศนมาตรมีหน้าที่สำคัญ และ ช่วยดูแลสุขภาพตาเป็นอย่างมาก เปรียบเสมือนการช่วยคัดกรองความผิดปกติของดวงตา และ วินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา

1.) Visual Acuity วัดระดับการมองเห็น 2.) Auto refraction วัดค่าสายตาด้วยเครื่องวัดสายตาอัตโนมัติ 3.) Tonometry วัดความดันตา เพื่อดูความเสี่ยงของโรคต้อหิน 4.) Cover test and Eye movement ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา การกลอกตา ตาเข 5.) Slit lamp microscope ตรวจตาอย่างละเอียดด้วยกล้องจุลทรรศน์สำหรับตา เพื่อดูส่วนของเปลือกตา กระจกตา ม่านตา และเลนส์ พร้อมประเมินภาวะต้อกระจก หรือภาวะผิดปกติอื่นๆ

RODENSTOCK เลนส์คุณภาพสูงจากเยอรมันด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเหนือแบรนด์อื่นๆ และ ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพสูง ที่สั่งสมประสบการณ์มามากกว่า 140 ปี ทำให้ RODENSTOCK สามารถพัฒนาผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ผสานความแม่นยำในทุกรายละเอียดได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ ฟังก์ชั่นในการใช้งาน รวมถึงการออกแบบ พร้อมให้คุณพิสูจน์มาตรฐานคุณภาพระดับสูงสุด และ ความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่สะท้อนผ่านกรอบแว่นตาในระดับพรีเมี่ยม


Nikon เลนส์แว่นตาจากประเทศญี่ปุ่น กว่า 100 ปีที่ Nikon ได้เติบโตและอยู่ในอุตสาหกรรม Optical อย่างที่เราได้รู้จักกันเป็นอย่างดีในนามกล้อง และเลนส์ Nikon ที่ให้ความคมชัดและใสที่สุดค่ายหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มต้นที่ปี 1917 เป็นการควบรวมกิจการของ 3 บริษัท Optical แนวหน้าของญี่ปุ่นจนกลายเป็น Nippon Kogaku (ในปัจจุบันคือ Nikon Corporation) จนมีการพัฒนาจนได้เลนส์แว่นตารุ่นแรก "POINTAL" และ ได้วางจำหน่ายในปี 1946 ซึ่งกลายเป็นผู้นำด้านนวัฒตกรรมในตอนนั้น และ จนถึงปัจจุบัน Nikon ก็ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2000 ได้ผลิตเลนส์ที่บางที่สุดในโลกกับ Index 1.74 ถัดมาอีก 2 ปีออกเลนส์ SEEMAX เลนส์แว่นตาที่ Customize ตามขนาดของกรอบแว่น และ อื่นๆได้อีกหลายรุ่น



Hoya Vision เป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม เป็นเวลา 75 ปีมาแล้วที่คำตอบเพื่อการปฏิวัติด้านสายตาและการดูแลสุขภาพตาของ Hoya Vision ได้ผลักดันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสำหรับลูกค้าทั่วโลก การออกแบบเลนส์ได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิม คือ: การทุ่มเทให้กับคุณภาพและนวัตกรรมซึ่งทำให้ Hoya Vision ได้กลายเป็นที่รู้จัก Hoya Vision ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า Hoya Vision ได้ลงทุนอย่างมากในการวิจัยและพัฒนาโดยมีการออกแบบเลนส์รุ่นล่าสุด บางที่สุด ใช้วัสดุที่ทนทานที่สุด จนกระทั่งได้รับรางวัลการเคลือบผิวเพื่อป้องกันแสงสะท้อนยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีการมองเห็นขั้นสูง ผลที่ได้คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ให้บริการดูแลสุขภาพตาทั่วโลก


เมื่อทำการตรวจสอบดวงตากับนักทัศนมาตรเป็นที่เรียบร้อย เราก็จะได้ปัญหาหลักๆของดวงตา และ ค่าสายตา เช่น ยาว สั้น เอียง เป็นตัวเลข ซึ่งค่านี้นั่นเองที่เป็นตัวเลือกว่าเราจะเลือกใช้เลนส์แบบไหน โดยทางร้านจะมีตัวอย่างของเลนส์ในทุกค่าสายตาให้ทดลองสวมใส่ เพื่อเป็นการทดสอบ รวมถึงตัวอย่างความบางของเลนส์ และ ความใสแบบเปรียบเทียบกันให้เห็นอย่างละเอียด ซึ่งเมื่อลูกค้าเลือกแบรนด์เลนส์ที่ชอบ และ ตัดสินใจได้เรียบร้อย ทางนักทัศนมาตร จะนำค่าสายตา และ ระยะทุกอย่างที่ได้จากการวัดโดยละเอียดส่งให้ช่างสายตาเพื่อดำเนินขั้นตอนต่อไป




bottom of page