ในปัจจุบันกรอบแว่นตามีหลากหลายแบบ และ หลากหลายสไตล์ โดยแต่ละแบรนด์ก็จะมีสไตล์ของการออกแบบกรอบที่แตกต่างกันไป โดยทางร้าน WALTZ จะพูดถึงกรอบแว่นตาที่มีจุดเด่น และ เป็นเอกลักษณ์หลักๆตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเราจะมาทำความรู้จักกับกรอบแว่นที่สวมใส่ให้เข้ากับ ใบหน้า หรือ สไตล์การแต่งตัวในชีวิตประจำวัน ในแต่ละแบบ และ ที่มาของการสร้างกรอบแว่นตาในรูปแบบต่างๆ จะมีแบบไหนบ้างตามไปดูกันได้เลย
1. Aviator Frame
กรอบแว่นตาทรงนักบิน จุดเริ่มต้นตั้งแต่ยุค 1930 จากปัญหาดวงตานักบินไม่สู้แสงเมื่อขับเครื่องบิน ทางกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาจึงได้ให้บริษัท Bausch & Lomb ช่วยคิดค้นอุปกรณ์ป้องกันสายตาให้กับนักบิน และ ได้โด่งดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมีหนังสือพิมพ์จับภาพนายพล ดักลาส แมคอาเธอร์ ตอนเดินลุยน้ำยกพลขึ้นบก ที่อ่าวเลเต ประเทศฟิลิปปินส์ และ เป็นที่แพร่หลายในภาพยนตร์หลายๆเรื่อง และ นักแสดงชั้นนำสวมใส่อย่าง Tom Cruise , Michael Jackson , Johnny Depp และ อื่นๆอีกมากมาย ปัจจุบันแว่นตาทรง Aviator หรือ ทรงนักบิน เปรียบเสมือนเป็นต้นแบบของแว่นกันแดดที่หลายๆแบรนด์ได้นำมาดีไซน์ในรูปแบบใหม่ ให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง แต่ยังคงรูปแบบเดิม เรียกได้ว่ากรอบแว่นทรงนักบินเป็นทรงที่ Classic ตลอดกาล
2. Round Frame
กรอบแว่นตาทรงกลม หรือ ทรงหยดน้ำ จุดเริ่มต้นในยุค 1920 ยุคแรกๆของแว่นตาเลยก็ว่าได้โดยได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาสายตา และ รองรับกับเลนส์แว่นตาในยุคนั้นโดยกรอบแว่นจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากทำจากโลหะล้วน โดยกรอบแว่นตาทรงกลมเริ่มเป็นที่รู้จัก และ เป็นเอกลักษณ์แบบจริงๆจังๆขึ้นมาก็เมื่อได้รับการสวมใส่โดย John Lennon แห่งวง The Beatles ซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตากับแว่นบนใบหน้าของเขา โดยในปัจจุบันกรอบแว่นตาทรงกลมยังถือว่าเป็นกรอบแว่นรูปทรงหลักๆ ที่ได้รับความนิยม และ ช่วยเสริมสร้างคาแรคเตอร์ให้กับใบหน้าผู้สวมใส่ได้ดีกว่ารูปทรงอื่นๆ
3. Caravan Frame
กรอบแว่นตาทรง Caravan จุดเริ่มต้นในยุค 1950 กับแว่นตาที่คล้ายทรงนักบิน แต่เป็นกรอบแว่นทรงสี่เหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่เปรียบเสมือนการปรับรูปทรงให้กับคนที่มีใบหน้ากลม ใส่แว่นตาได้เข้ากับใบหน้ามากขึ้น โดยกรอบแว่นทรง Caravan ตอนออกมาใหม่ๆ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรนักเนื่องจากในยุคนั้น มีกรอบแว่นทรงอื่นๆที่ได้รับความนิยมมากกว่า จนมาถึงในยุค 1980 หรือ ในยุคของคาวบอย ขี่ม้า เลี้ยงวัว ดวลปืน ในลุคของเสื้อเชิ้ตลายสก็อต รองเท้าบูธ และ แว่นตาทรง Caravan โดยมีการนำวิถีชิวิตของคาวบอย มาสร้างเป็นภาพยนตร์มากขึ้นในหลายๆเรื่อง จนแว่นตาทรง Caravan ได้กลับมามีความนิยมขึ้นอีกครั้ง
4. Square Frame
กรอบแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมเปรียบเสมือนกรอบแว่นที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ เพราะเป็นรูปแบบกรอบที่ดูเป็นทางการ ทำให้ผู้สวมใส่ดูมีความน่าเชื่อ เป็นกรอบที่มีรูปทรงที่สามารถสวมใส่ได้ตลอด ทั้งชุดลำลอง และ ชุดทำงาน หรือ จะใส่ออกงานที่ดูเป็นทางการก็ดูดีได้ไม่แพ้กัน ในปัจจุบันกรอบแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมมีการดีไซน์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น และ แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ บางแบรนด์ก็จะเน้นไปทางเรียบหรู หรือ บางแบรนด์ก็จะเน้นไปทางฟังก์ชั่นที่มีความบางเบา มีการผสมผสานระหว่างหน้าแว่นกรอบสี่เหลี่ยม และ ขาแว่นที่ใช้โลหะ แตกต่างจากในยุคก่อนที่แว่นตาจะใช้วัสดุเดียวกันล้วนๆ ซึ่งกรอบแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมยังไงก็ถือว่าเป็นกรอบที่เหมาะแก่การสวมใส่ได้ทุกโอกาสเลยจริงๆ
5. Cat Eye Frame
กรอบแว่นตาทรง Cat Eye เป็นกรอบแว่นอีกทรงที่มีเอกลักษณ์อย่างมากสำหรับผู้หญิง เพราะช่วยให้ใบหน้า และ บุคลิกดูโฉบเฉี่ยว เปรี้ยว เก๋ไปพร้อมกัน โดยกรอบแว่นทรงนี้ได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงยุค 1940 – 1980 จากการสวมใส่ของนักแสดง นางแบบอย่าง Marilyn Monroe ผู้ที่ทำให้กรอบแว่นตาทรง Cat Eye นี้โด่งดังเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันกรอบแว่นตา Cat Eye แบรนด์ที่นำดีไซน์นี้กลับมาผลิตอีกครั้งมักจะไม่ใช่แบรนด์แว่นตาที่ผลิตแต่แว่นเป็นหลัก แต่จะเป็นแบรนด์ที่สินค้าอื่นๆด้วย เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เพราะกรอบแว่นทรง Cat Eye เปรียบเสมือน Accessory สำหรับสุภาพสตรีทุกยุค ทุกสมัยจะต้องมี
6. Panto Frame
กรอบแว่นทรง Panto หรือทรง P3 มีชื่อเรียกเต็มๆว่า Pantoscopic Tilt ที่แปลเป็นไทยได้ว่า “การมองเห็นได้กว้างไกล” โดยจุดเริ่มต้นย้อนไปในยุค 1930 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพของสหรัฐอเมริกาได้ผลิตกรอบแว่นตาขอบเหล็กแบบบาง ขึ้นมารุ่นหนึ่ง สำหรับให้นายทหารที่มีปัญหาด้านสายตาได้ใช้ โดยตั้งชื่อย่อว่า ‘P3’เพื่อบ่งบอกถึงลักษณะเลนส์ที่โค้งเข้าหาใบหน้าเล็กน้อย และ ทำให้นายทหารสามารถใส่แว่นนี้อยู่ภายในหน้ากากกันแก๊สได้อย่างพอดี โดยแว่นตารูปทรงดังกล่าวต่อมาได้มีชื่อเรียกว่า Panto อย่างจริงจังในปี 1950 – 1970 เมื่อหน่วยงานรัฐของสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า The National Health Service หรือ NHS ได้จัดทำแว่นตาที่มีชื่อทรงของเลนส์แว่นว่า ‘Pantoscopic Eyewear’ เพื่อให้เป็นสวัสดิการแก่ประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาที่มีปัญหาทางด้านสายตา ในปัจจุบันมีแว่นตาหลากหลายแบรนด์นำกรอบทรง Panto กลับมาผลิตใหม่อีกครั้งเนื่องจากมีเอกลักษณ์ทางด้านรูปทรง และ สวมใส่ง่าย แถมยังดู Vintage อีกด้วย
7. Crown Panto Frame
กรอบแว่นตาทรง Crown Panto มีจุดเริ่มต้น และ การออกแบบมาจากประเทศฝรั่งเทศในยุค 1930 แต่กลับไม่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสเท่าไหร่นัก จนกระทั่งในปี 1940 กรอบแว่นตาทรง Crown Panto ได้กลับมาโด่งดังขึ้นอีกครั้ง และ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในอเมริกา จนในปัจจุบันกรอบแว่น Crown Panto ได้กลับมาได้รับความนิยมขึ้นอีกครั้งในกระแสกลุ่มแว่นวินเทจ เพราะมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์กับหน้าแว่นรูปมงกุฎ โดยถ้าเป็นกรอบแว่นตาที่ผลิตในฝรั่งเศสแท้ๆช่วงยุค 40-50’s จะมีความหนาถึง 8 mm. เลยทีเดียว
8. Wayfarer Frame
กรอบแว่นทรง Wayfarer เป็นกรอบแว่นตาที่โด่งดังมากในยุค 50’s โดยว่ากันว่าในยุคนั้นมีเพียง 3 เรื่องเท่านั้นที่คนอเมริกาจะพูดถึง 1. คือเครื่องบิน 2. คือ ดนตรี Rock 3. คือ Ray Ban Wayfarer นั่นเอง และ ด้วยความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนั้น จึงได้เห็นแว่นทรง Wayfarer จากสื่อ นักแสดง ในยุคนั้นมากที่สุด จนในปัจจุบันมีการนำกรอบแว่นทรง Wayfarer มาออกแบบปรับปรุงใหม่มากมายในแบบของตนเอง แต่ยังไงรูปแบบกรอบทรงนี้ก็ยังคงความ Classic ตลอดกาล
9. Clubmaster Frame
กรอบแว่นตาทรง Clubmaster หรือ Half Frame เป็นทรงแว่นตาแบบครึ่งกรอบนั่นเอง โดยจะมีความหลากหลายแต่งต่างกันออกไปที่แบบ โดยกรอบทรงนี้ได้รับความนิยมในช่วง 1990 – 2000 โดยกรอบทรง Clubmaster เป็นกรอบที่มีรูปทรงการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เปรียบเสมือนคิ้วของใบหน้า และ เป็นทรง Retro ในแบบย้อนยุคที่สามารถสวมใส่ได้ทุกยุค ทุกสมัย ในปัจจุบัน แว่นทรง Clubmaster ก็ยังได้รับความนิยมทั้งแบบ แว่นกันแดด และ กรอบแว่นสายตา เพราะเป็นรูปทรงที่สวมใส่ง่าย เข้าได้กับทุกยุคทุกสมัย
10. Drill frame
กรอบแว่นตาแบบไร้กรอบ หรือ กรอบเจาะ มีการพัฒนามาจากยุค 2000 หลังจากเทคโนโลยีเลนส์แว่นตาเริ่มก้าวหน้ามากขึ้น ตัวเนื้อเลนส์มีคุณสมบัติที่เหนียวแน่นขึ้น เพื่อที่จะยึดให้เข้ากับตัวขาแว่นไม่ให้แตก หรือ หักง่าย โดยกรอบประเภทนี้เหมาะกับกลุ่มที่ต้องการกรอบแว่นน้ำหนักเบา หรือ ลูกค้าที่มีค่าสายตาเยอะๆ ดูเป็นทางการ ไม่เน้นทางด้านแฟชั่น โดยในปัจจุบันกรอบแว่นตาแบบไร้กรอบ หรือ กรอบเจาะก็มีให้เลือกหลายหลายแบบขึ้น โดยแต่ละแบรนด์ล้วนออกแบบกรอบเจาะให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองส่วนใหญ่จะเน้นไปทางขาแว่น เช่นกันสลักลวดลาย ประดับด้วยจิวเวลรี่ รวมไปถึงการนำวัสดุหายากมาผลิตเป็นขาแว่นเช่น ไม้ และ เขาสัตว์ ซึ่งให้ความหรูหราได้ไม่แพ้รูปแบบกรอบอื่นๆเลย
Comentários