top of page

Handcrafted in Japan



ประวัติศาสตร์แว่นตานั้นมีมากว่า 100 ปี โดยในยุคแรกๆนั้นแว่นตาทั้งหมดล้วนผลิตด้วยมือแทบทั้งหมด เริ่มด้วยแบรนด์ที่โด่งดังตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันอย่าง Ray Ban เองในยุคแรกๆก็ล้วนทำมือในอเมริกาแทบจะทั้งหมดทุกรุ่น จนบริษัท Luxottica เข้ามาซื้อกิจการ และ ย้ายฐานการผลิตไปผลิตในประเทศอิตาลี่ พร้อมกลับแบรนด์แว่นอื่นๆ ที่ค่อยๆ โดนเทคโอเวอร์ และ บางแบรนด์ค่อยๆทยอยถูกกลืนหายไปอย่าง Persol , Tart , Alpha , A.O และ อื่นๆอีกมากมาย หลายๆแบรนด์ที่เคยโด่งดังในอดีต ปัจจุบันก็ได้มีการซื้อลิขสิทธิ์มาทำต่อโดยการใช้ชื่อเก่าในการขาย แต่คุณภาพอาจไม่ดีเท่ากับยุคแรกๆที่ผลิต รวมถึงการนำเครื่องจักร และ เทคโนโลยีมาช่วยส่งผลในการผลิตมากขึ้น เพราะแว่นตาที่ทำมือ ผลิตด้วยมือ หรือ งาน Hand Made นั้นส่วนใหญ่จะผลิตได้วันละไม่กี่อัน ทำให้ไม่เพียงพอต่อการขาย และ ในแง่ของธุรกิจ อาจจะไม่คุ้มทุนในการผลิต และ ราคาขายของแว่นในแต่ละอัน รวมมาถึงการลดต้นทุน ลดคุณภาพของวัสดุ และ การผลิตลง เน้นการผลิตในจำนวนทีละมากขึ้น เพื่อเพียงพอต่อความต้องการของตลาด และ รวมไปถึงราคาของแว่นที่สามารถจับต้อง และ ให้ผู้บริโภคเข้าถึงมากขึ้น เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็เริ่มจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยล่ะครับว่า ทำไมแว่นตาบางแบรนด์นั้นถึงมีราคาแพงเหลือเกิน แล้วในเมื่อเทคโนโลยีก้าวล้ำไปขนาดนี้ แล้วทำไมถึงยังมีคนบางกลุ่มที่ชื่นชอบเก็บแว่นเก่าที่ผลิตในยุคแรกๆ หรือ งานที่ผลิตในปัจจุบันแต่ทำมือล่ะ ทั้งๆที่มีราคาที่สูงกว่ามากๆ คำตอบคงหาได้ไม่ยากแล้วใช่มั้ยครับ. ...


เริ่มต้นจากการออกแบบด้วยการวาด หรือ สเก็ตซ์ภาพในแบบคร่าวๆ บางแบรนด์ก็นำเอาภาพเก่าเก็บในอดีตที่ได้มีการออกแบบไว้ก่อนเป็นสิบ ยี่สิบ หรือ ร้อยกว่าปี เพื่อนำมาผลิตแว่นอีกครั้งในปัจจุบัน โดยยังคงนำการผลิตแบบดั้งเดิมเหมือนในอดีต และ ใช้กรรมวิธีการผลิตแบบโบราณ ถึงแม้ว่าจะผลิตได้วันละไม่กี่อัน แต่ถ้าพูดถึงในเรื่องความประณีต และ คุณภาพแล้ว ย่อมมีดีกว่าแบรนด์ที่ผลิตได้วันละหลายๆอันอย่างแน่นอน


ทำไมถึงต้อง Handcrafted in Japan ก็เพราะว่าประเทศญี่ปุ่นนั้น เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีการส่งออกยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับประเทศจีน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ อุตสาหกรรมของญี่ปุ่นนอกจากเทคโนโลยี และ เครื่องจักรแล้ว การผลิตสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ เครื่องแต่งกายในปัจจุบัน เป็นที่การันตีกันได้เลยว่าไม่แพ้ประเทศใดในโลกเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น กางเกงยีนส์ รองเท้า เครื่องหนัง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รวมไปถึงงานแว่นตาเองแบรนด์ที่ผลิตในญี่ปุ่นล้วนโด่งดังไปทั่วโลก โดยกางเกงยีนส์ที่ผลิตในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังๆอย่าง Samurai , Iron Hearts , The Flat Head หรือ Momotaro ในปัจจุบันก็โด่งดังไม่แพ้ Levi's ในอดีตเลยทีเดียว เพราะนอกจากญี่ปุ่นจะกว้านซื้อเครื่องจักรที่ผลิตกางเกงยีนส์ในอดีตอย่างของ Lee , Levi's , Wrangler แล้วญี่ปุ่นยังมีเทคนิคการทอผ้ายีนส์ และ การย้อมสีชนิดที่ทั่วโลกต้องยอมรับในคุณภาพของแบรนด์ที่ผลิตในประเทศนี้เลยทีเดียว นอกจากกางเกง รองเท้า เครื่องหนัง ที่โด่งดังในญี่ปุ่นแล้ว แว่นตาที่ผลิตในญี่ปุ่นก็ล้วนมีแบรนด์ที่โด่งดังมากมายอย่าง Masunaga , EYEVAN7285 , TVR Optic และ อื่นๆอีกมากมาย ส่วนแบรนด์แว่นที่โด่งดังระดับโลกหลายๆแบรนด์ก็ล้วนมีฐานการผลิต หรือ โรงงานอยู่ในญี่ปุ่นแทบทั้งสิ้น อย่างเช่น DITA , Chrome Hearts , Thom Browne , Oliver Peoples และอื่นๆอีกมากมาย เป็นที่ยอมรับกันได้ว่าไม่ว่าจะแบรนด์ไหนๆที่ผลิตในญี่ปุ่นล้วนมีคุณภาพ และ ใส่ใจในการผลิตทุกๆขั้นตอน


เริ่มจากการไม่ใช่เครื่องจักรใดๆทั้งสิ้น หรือ ใช้เครื่องจักรในการผลิตแว่นตาให้น้อยที่สุด เพราะคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าการทำแว่นด้วยมือในทุกๆขั้นตอน ย่อมมีความละเอียด และ คุณภาพที่แตกต่างอย่างที่เครื่องจักรให้ไม่ได้ โดยแว่นบางแบรนด์ที่ผลิตในญี่ปุ่นผ่านกรรมวิธีการผลิตมากกว่า 200 ขั้นตอน และ นอกจากการทำมือแล้ววัสดุที่คนญี่ปุ่นเลือกมาผลิตเป็นแว่นตานั้นล้วนแต่เป็นวัสดุคุณภาพสูงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Acetate , Titanium , Celluloid หรือ โลหะบางชนิดที่มีเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น


วัสดุที่ผลิตแว่นในญี่ปุ่นนอกจากจะมีคุณภาพสูงแล้ว การผลิต การลบคม การขัดเงา ของคนญี่ปุ่นยังใช้กรรมวิธีแบบโบราณโดยการใช้หิน และ ไม้ บางชนิดที่มีความละเอียดใส่เข้าไปปั่นกว่าหมื่นรอบ เพื่อให้ หิน และ ไม้ ที่เป็นวัสดุธรรมชาตินั้น ลบความคมของวัสดุ และ ยังลดอาการระคายเคืองต่อผิวผู้สวมใส่ให้มากที่สุด


นอกจากการใช้หิน และ ไม้ ปั่นเพื่อลบคม และ เนื้อผิวของโลหะแล้ว ยังมีการตะไบด้วยมืออีกรอบเพื่อลบความคม และ ยังตะไบองศา เหลี่ยม มุม ให้เสมอกันอีกด้วย


การขัดเงาด้วยเครื่องปัดเงา โดยใช้ผ้าเบอร์ละเอียด เพื่อให้ผิวของเนื้องานมีความเรียบเนียนเสมอกัน และ สีผิวของเนื้องานยังเงางาม ลบรอยขนแมวต่างๆที่เกิดกับเนื้อ Acetate อีกด้วย


แม้แต่การเจาะรูเพื่อยึดหมุดต่างๆ ยังใช้สว่านตัวเล็กที่เจาะด้วยมือ เพื่อให้ได้ความละเอียดแม่นยำ และจุดยึดที่แข็งแรง เพราะสว่านมือนั้นมีแรงกดที่กระทำต่อโลหะ น้อยกว่า สว่านตัวใหญ่ๆ ที่อาจจะทำให้เนื้อโลหะของแว่นนั้น แตก ร้าว หรือ เสียหายได้ง่าย


จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการทำแว่นแบบ Handcrafted นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว เพราะต้องอาศัยฝีมือ และ ประสบการณ์ความชำนาญของช่างเป็นอย่างสูงกว่าจะผลิตแว่นออกมาได้ในแต่ละอัน ไม่เหมือนแว่นบางแบรนด์ที่ใช้เครื่องจักรผลิตออกมาได้จำนวนครั้งละมากๆ ปัจจุบันเทคโนโลยีก็ก้าวไกลการจะผลิตแว่นตาสักอันไม่ใช่เรื่องยากเลย ไหนจะโปรแกรม 3D ที่ใช้ในการออกแบบ หรือ เครื่องจักรที่สามารถตัดเฟรม ตะไบ ลบคม ปั้มจุดยึดขา และ ผลิตแว่นออกมาได้เพียงไม่กี่นาที แต่แล้วทำไมยังมีแว่นตาบางแบรนด์ที่ยังคงใช้การออกแบบด้วยการวาด หรือ สเก็ตซ์ภาพ การตะไบมือ การใช้ไม้ และ หินในการลบคม ยอมที่จะผลิตแว่นตาได้วันละไม่กี่อัน เพื่อยังคงรักษาคุณภาพของแบรนด์เอาไว้ ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนบางกลุ่มที่กลับตามหาแว่นเก่าๆ หรือ แว่น Vintage ที่ผลิตมาแล้ว 20 - 30 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่ามีคุณค่าทางจริงใจ เก็บสะสม หรือ การใช้งาน แล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า แว่นตาเก่าๆ ที่ยังคงใช้กรรมวิธีการผลิตด้วยมือแบบโบราณนั้น มีความทนทาน และ ความสวยงาม กว่าแว่นที่ผลิตด้วยเครื่องจักร และ เทคโนโลยีที่ทันสมัยเยอะ ด้วยฟิลลิ่งในการสัมผัสชิ้นงาน คุณภาพในการเลือกใช้วัสดุ จนเป็นที่ยอมรับกันเลยว่าประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งผลิตแว่นที่ดีที่สุดของโลกอีกแห่งนึงเลยทีเดียว แล้วคุณล่ะพร้อมหรือยังที่จะเข้ามาสัมผัสกับงาน Craftsmanship จากแหล่งผลิตแว่นที่ดีที่สุดของโลก

 

Siam Paragon

02 1294 474

K-Village

02 6614 088 (9)

Crystral Park

02 5150 521 (2)

The Crystral Ratchapruek

02 1025 617 (8)

support@waltzvision.com

www.facebook.com/waltzvision

Instagram : WALTZVISION

WALTZ

LUXURY EYEWEAR STORE


Comments


bottom of page