top of page

5 The Best Sunglasses Campaign Light and Shadow By JMM



Campaign The Light & The Shadow เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจภายใต้แนวคิดของ แสง และ เงา ที่สะท้อนให้เห็นถึงแฟชั่นที่โด่งดังในอดีต โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอลเลคชั่นที่โด่งดังของ Yves Saint Laurent ในปี 1971 จากยุค 40’s โดยคิดเสมอมาว่า แสง และ เงา เปรียบเสมือนต้นแบบแห่งอนาคต จากคอลเลคชั่นของ Yves Saint Laurent ที่ทำให้โลกต้องตกใจกับแฟชั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดซึ่งเปรียบเสมือน อำนาจ และ แรงดึงดูด มาดูกันว่าแว่นตาใน Campaign พิเศษนี้จะมีรุ่นไหนที่โดนใจกันบ้าง


Jacques Marie Mage 1962/ALTAN

โดดเด่นด้วยรูปทรงที่แตกต่างจากแว่นกันแดดรูปทรงเดิมๆ การออกแบบของ 1962/ALTAN ฉีกกฏของแว่นกันแดดในปัจจุบันซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มองหาแว่นกันแดดแบบ Unique เน้นความแตกต่าง โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแว่นตาในแฟชั่นช่วงปี 60's จากภาพของ Dennis Hopper นักแสดงชาวอเมริกัน นอกจากดีไซน์หน้าแว่นของ JMM 1962/ALTAN จะดูมีความโดดเด่นเป็นพิเศษแล้ว ขาแว่นก็ยังดีไซน์ได้อย่างงดงาม พร้อมทั้งหมุดที่ปลายขาซึ่งเป็นสี Signature ของแบรนด์เพื่อบ่งบอกว่าเป็นแว่นตาของ Jacques Marie Mage เมื่อตอนสวมใส่ได้อย่างชัดเจน


Jacques Marie Mage KILPATRICK/GOLD

KILPATRICK แว่นกันแดดที่ใช้การผสมผสานระหว่างโลหะ Titanium ของตัวกรอบ และ Acetate เข้ามารวมกัน การดีไซน์ของ KILPATRICK ดูเรียบง่าย ใช้โลหะสีทองที่ให้ความหรูหรากับตัวแว่น ซึ่งชื่อของ KILPLATRICK ได้มาจากชื่อของ Ben Kilpatrick ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม Wild Bunch ซึ่งเป็นองค์กรนอกกฏหมายของอเมริกัน ซึ่ง Ben Kilpatrick เป็นสมาชิกคนนึงของกลุ่มที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ โดยแว่นรุ่น KILPATRICK ได้ออกแบบตามสไตล์ คาวบอย ของ Ben Kilpatrick นั่นเอง


Jacques Marie Mage HICKOK/BUFFALO

มาต่อกันอีกรุ่นกับ HICKOK แว่นกันแดดที่ผลิตจาก Acetate ล้วนโดยเนื้อ Acetate ของแบรนด์ JMM จะแตกต่างจากแบรนด์ทั่วๆไป โดยเนื้อ Acetate ค่อนข้างหนา แต่ให้สัมผัสที่ดีเมื่อตอนสวมใส่ โดย HICKOK ได้ทำสีของกรอบด้วยการใช้เทคนิคการลงสีพิเศษให้เหมือนกับกรอบแว่นที่ทำจากเขาสัตว์ ซึ่งดูเป็นธรรมชาติ และ ค่อนข้างเงางามโดยใช้ขั้นตอนการผลิตค่อนข้างซับซ้อนเพราะเนื้อ Acetate ของแว่น JMM มีความหนาเป็นพิเศษ และ ประดับด้วยโลหะที่เป็นสัญลักษณ์พิเศษของแบรนด์ Jacques Marie Mage โดยรุ่นนี้ได้นำชื่อของ คาวบอย ชื่อดังอย่าง James Butler Hickok หรือ ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในนาม Wild Bill Hickok มาตั้งเป็นชื่อของรุ่นแว่นตานั่นเอง


Jacques Marie Mage APOLLINAIRE/NUDE

APOLLINAIRE แว่นกันแดดอีกรุ่นที่น่าสนใจด้วยการออกแบบผสมผสานแนว Modern Vintage ที่ดูลงตัว และ สง่างามด้วยกรอบแว่นทรงกลมที่ใช้บาร์เดี่ยว และ เสริมด้วย Acetate ที่กรอบหน้าแว่นเพื่อให้ตัวแว่นตามีความโดดเด่นมากขึ้นนั่นเอง โดยรุ่น APOLLINAIRE ได้สร้างจากชื่อของนักกวีชื่อดังชาวฝรั่งเศสอย่าง Guillaume Apollinaire โดยเมื่อตอนที่เขาย้ายไปอยู่ปารีสในช่วงอายุ 20 เคยถูกกักตัวไว้ 1 อาทิตย์เพราะถูกสงสัยว่าเป็นคนขโมยภาพ โมนาลิซ่า และ ยังเคยเข้าร่วมรบกับฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยบทกวีของ Guillaume Apollinaire ยังโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง APOLLINAIRE เป็นแว่นกันแดดของ Jacques Marie Mage หนึ่งใน Campaing Light & Shadow ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก


Jacques Marie Mage BORODINO/ASH

ปิดท้ายกันด้วยรุ่น BORODINO แว่นกันแดดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยการออกแบบหน้าแว่นที่เต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และ การเลือกใช้ Acetate ที่หน้ามาทำเป็นหน้าแว่นให้ดู Vintage แบบแว่นตาฝรั่งเศสในสมัยยุคแรกๆ และ การออกแบบสะพานจมูกที่ใช้โลหะ ซึ่งทำให้มิติของหน้าแว่นดูไม่ชิดกันเกินไป และ การเสริมกระบังลมที่ด้านข้างซึ่งหลบอยู่ในขาแว่นทำให้ไม่โดดเด่นมาก แต่ที่พิเศษที่สุด คือขาแว่นรุ่นนี้ออกแบบมาได้อย่างสวมงามมากเลยทีเดียว โดยการตัดมุมที่ปลายขาซึ่งดูเท่มากๆ เมื่อตอนสวมใส่ โดยชื่อของ BORODINO ได้มาจากสงครามระหว่าง ฝรั่งเศส รัสเซีย และ อิตาลี่ ซึ่ง BORODINO นับว่าเป็นวันที่อันตรายที่สุดของสงคราม นโปเลียนเลยทีเดียว

หลังจากติดตามอ่านกันมาทั้ง 5 รุ่นแล้ว แฟนๆ Jacques Marie Mage ชอบ หรือ ถูกใจรุ่นไหนใน Collection นี้เป็นพิเศษเตรียมพบกันเร็วๆนี้กับร้าน WALTZ ที่แรกก่อนใคร ซึ่งแว่นตาของ Jacques Marie Mage ผลิตมาจำนวนจำกัดเพียง Model. ละ 350 ชิ้นทั่วโลกทุกๆ Collection ถ้าไม่อยากพลาดการเป็นเจ้าของอย่ารอช้าเป็นอันขาด

 

Siam Paragon

02 1294 474

K-Village

02 6614 088 (9)

Crystral Park

02 5150 521 (2)

The Crystral Ratchapruek

02 1025 617 (8)

support@waltzvision.com

www.facebook.com/waltzvision

Instagram : WALTZVISION

WALTZ

LUXURY EYEWEAR STORE


Comments


bottom of page