“ความไม่พิเศษ” ของวงการแฟชั่นแว่นตาแบรนด์เนม
top of page

“ความไม่พิเศษ” ของวงการแฟชั่นแว่นตาแบรนด์เนม




ความน่าเบื่อของวงการแฟชั่นแว่นตามักเริ่มต้นด้วย ดีไซเนอร์หลักที่ออกแบบอัตลักษณ์ของคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ในแบรนด์นั้นๆ และ “โยน” ดีไซน์เหล่านั้นให้กับ “Licensee” หรือเหล่าบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแว่นตารายใหญ่ของโลกทั้งที่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตแว่นตาทั้งสร้างเองหรือเข้าไปซื้อกิจการโรงงานในหลายประเทศ และเน้นการสร้างยอดขายตาม “สัญญา” ระหว่างบริษัทและแบรนด์เนมดังๆที่เรารู้จักกันดี


กระเป๋าสตางค์ผู้ชายของแบรนด์เนมหนึ่งที่คนนิยมใช้กันมาก (รูป)เกิดจากการซอร์สหนังที่ดีที่สุด มาใช้กระบวนการตัด สาน ด้วยวิธีลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ด้วยมือ คือมูลค่าที่คุณต้องจ่ายร่วมสองหมื่น สิ่งที่แว่นตาแบรนด์เนมแตกต่างจากกระเป๋าหรือเสื้อผ้าที่แบรนด์เนมเป็นผู้ควบคุมคุณภาพและการผลิตเอง ก็คือการมอบสิทธิให้บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการแว่นตาเหล่านี้นำไปผลิต และด้วยเป้าหมายของบริษัทซึ่งก็คือ “กำไร” เป็นสำคัญ “คุณภาพ” ซึ่งหมายถึงการสรรหาวัตถุดิบที่ดีที่สุด และกระบวนการผลิตที่มีเรื่องราวที่เป็นสิ่งที่นักเล่นแบรนด์เนมตัวจริงใฝ่หา จึงไม่ใช่สิ่ง”สำคัญที่สุด”


ในเมื่อสามารถเอาแว่นดีไซน์เดิมๆ มาใส่โลโก้ เพิ่มลวดลาย ปรับรูปทรงนิดหน่อย แล้วปั๊มเครื่องหมายการค้าของแบรนด์เนมเข้าไป ก็สามารถขายได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว


ความพิเศษในแง่วัตถุดิบ กระบวนการ ฝีมือ เรื่องราวเหล่านี้ จึงหายไป การลดต้นทุนตั้งแต่วัตถุดิบ และกระบวนการผลิตกลับเป็นเรื่องสำคัญเพื่อสร้างผลกำไรสูงสุด


ดังนั้นหากมุมมองของผู้ซื้อคือการได้ครอบครองแว่นแบรนด์เนมสักชิ้นเฉยๆ มันก็ไม่มีปัญหาอะไร


แต่หากคุณต้องการงานที่มีคุณภาพ ฝีมือการผลิตและเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมในการสรรสร้างงานแว่นตามูลค่าหลายหมื่นที่คุณกำลังจะลงทุนซื้อเพราะอยากใช้งานที่ดีและมีคุณค่า แน่นอนว่ายังมีอีกหลากหลายแบรนด์ที่คุณไม่รู้จักและเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมกว่า


WALTZ เชื่อว่าด้วยข้อมูลที่มากขึ้น คุณจะหา “คำตอบ” ของคุณเองได้อย่างแน่นอนครับ

bottom of page